คำนาม (Kata Nama)
คำนาม (Kata Nama) คือ
กลุ่มของคำที่สามารถจำแนกได้ดังนี้ :-
1- คำนามทั่วไป (Kata Nama Am)
2- คำนามเฉพาะ (Kata Nama Khas)
3- คำสรรพนาม (Kata Ganti Nama)
4- อนุพันธ์คำนาม
(Nama Terbitan)
1- คำนามทั่วไป (Kata Nama Am) คือ คำที่ใช้เพื่ออธิบายชื่อสิ่งมีชีวิต
เช่น คน สัตว์ และสิ่งไม่มีชีวิต เช่น พืชพันธ์ สถานที่ สิ่งของ เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น
:
คน : พ่อ (ayah) , ตำรวจ (polis) , ผู้หญิง (perempuan) ฯลฯ
สัตว์ : ไก่ (ayam) ,
เป็ด (itik) ,
จระเข้ (buaya) ฯลฯ
สิ่งของ : โทรทัศน์ (televisyen) , คอมพิวเตอร์ (komputer) , ธนาคาร (bank) ฯลฯ
ตัวอย่างประโยค :
Ayah menanam pokok kayu. (พ่อปลูกต้นไม้)
Abang mebeli ayam. (พี่ชายซื้อไก่)
Emak pergi ke bank. (แม่ไปธนาคาร)
คำนามทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น
2 ประเภท คือ konkrit (รูปธรรม) และ abstrak (นามธรรม)
คำนามทั่วไปแบบ konkrit
(นามธรรม) คือ
ชื่อสิ่งของที่สามารถสัมผัส รู้สึก หรือมองเห็นได้ คำนามทั่วไปแบบ abstrak (นามธรรม) คือ ชื่อสิ่งของที่คิดหรือจินตนาการ (ไม่สามารถจับต้องได้) ทั้งสองคำนี้สามารถประกอบด้วยคำพื้นฐาน (kata dasar) และคำอนุพันธ์ (kata terbitan) เช่น : buai-buaian (ชิงช้า)
คำนามทั่วไปจะต้องเป็นพยัญชนะตัวพิมพ์เล็ก
นอกจากในตอนต้นของประโยคจะเป็นตัวพิมพ์ใหญ่
2- คำนามเฉพาะ (Kata Nama Khas) คือ
คำนามที่ใช้เฉพาะเจาะจงเพื่อตั้งชื่อสิ่งใด
สิ่งหนึ่งทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต คือ สถานที่
ชื่อหนังสือ ชื่ออาคาร และอื่น ๆ
คำนามเฉพาะ
(Kata Nama Khas)
ใช้เพื่ออ้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น :
สิ่งของ : ศรี อามาน (Sri Aman) , วอลโว (Volvo), ปาร์เกอร์ 45 (Parker 45) , นิทานเรื่องฮังตูวะห์ (Hikayat Hang
Tuah)
ฯลฯ
คน : คุณ ราฟีดะห์ (Cik Rafidah) , สารวัตร อัซมาน (Inspektor Azman) ,
ดร.ลอง (Dr. Long) ฯลฯ
สัตว์ : แบล็คกี้ (Blacky) , ปะบือลัง (Pak Belang) , ซังกันชิล (Sang Kancil) , ซีโตมโปก (Si Tompak) ฯลฯ
สถานที่ : กำปง บะห์รู (Kampung Bahru) , ชะอาลัม (Shah Alam) ,
กัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ฯลฯ
ตัวอย่างประโยค :
Ayah cerita tentang Hikayat Hang Tuah
setiap malam. (พ่อเล่านิทานเรื่องฮังตูวะห์ทุกคืน)
Dr. Long seorang guru di
Universiti Thanksin. (ดร.ลองเป็นอาจารย์ท่านหนึ่งที่มหาวิทยาลัยทักษิณ)
Kucing Fadeelah bernama Sang Kancil. (แมวฟาดีละชื่อซังกันชิล)
Nisreen pegi melancong di Kuala Lumpur. (นิสรีนไปเที่ยวกัวลาลัมเปอร์)
3- คำสรรพนาม (Kata Ganti Nama) คือ
คำนามที่ใช้เพื่อแทนตนเองหรือแทนบุคลอื่น
คำสรรพนามแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
คำสรรพนามบุรุษที่ 1 : ฉัน (saya) , ข้าพเจ้า(beta) , พวกเรา (kami) , เรา (kita)
คำสรรพนามบุรุษที่ 2 : แก (awak) , เธอ (engkau) , คุณ (anda) , คุณ (saudara
/ saudari)
คำสรรพนามบุรุษที่ 3 : มัน (ia) , เขา / หล่อน (dia) , ท่าน (beliau) , เขาทั้งหลาย (mereka)
ตัวอย่างประโยค :
Saya seorang yang rajin. (ฉันเป็นคนขยัน)
Engkau suka baju ini? (เธอชอบเสื้อนี้ไหม?)
Semalam saya jumpa dengan dia. (เมื่อวานฉันเจอเขา)
4- อนุพันธ์คำนาม (Nama Terbitan) จะเกิดขึ้นเมื่อคำนามทั่วไปได้รับคำเติม
รูปแบบคำเติมของอนุพันธ์คำนามสามารถอยู่ต้นคำ (awalan),
ท้ายคำ (akhiran), ต้นคำและท้ายคำ
(apitan), แทรกกลางคำ (sisipan)
อ้างอิง : http://waesuroida.blogspot.com/2012/09/kata-nama.html?m=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น